share

การปรับตัวของ ISO ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

Last updated: 24 May 2024
343 Views
การปรับตัวของ ISO ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

การประเมินความเสี่ยงตาม ISO 14001:2015 คือ กระบวนการการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรตามข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO 14001:2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กร

การประเมินความเสี่ยงตาม ISO 14001:2015 คือ
 
การประเมินความเสี่ยงตาม ISO 14001:2015 คือ กระบวนการการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรตามข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO 14001:2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กร การประเมินความเสี่ยงนี้ช่วยให้องค์กรได้ทำความเข้าใจและตอบสนองต่อความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในการดำเนินกิจการและทำงานต่างๆในองค์กร โดยการประเมินความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 จะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดแผนการจัดการความเสี่ยงในด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงในการก่อกวนสิ่งแวดล้อม
 


 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประเมินความเสี่ยงจะต้องมีการจัดทำแผนการปรับปรุงการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ การประเมินความเสี่ยงนี้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนการดำเนินงานเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 14001:2015 และช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร โดยมีการประเมินความเสี่ยงเป็นอย่างสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงการจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กรเพื่อให้มีความเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO 14001:2015 อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมขององค์กร โดยผลการประเมินความเสี่ยงจะช่วยให้องค์กรพัฒนาและปรับปรุงการจัดการสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดใน ISO 14001:2015
 
ISO 14001:2015 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดข้อกำหนดสำหรับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมซึ่งให้การชี้วัดและการประเมินผลในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ และอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยมีการประเมินความเสี่ยงเป็นหนึ่งในข้อกำหนดหลักของมาตรฐานนี้
 
iso 14001:2015 คือ
 


 
ISO 14001:2015 เป็นมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กร มาตรฐานนี้ถูกพัฒนาโดยองค์กรมาตรฐานสากล (International Organization for Standardization หรือ ISO) เพื่อช่วยให้องค์กรมีการจัดการและดำเนินการที่มีมาตรฐานเพื่อความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น มาตรฐานนี้เน้นให้กับหลักการของระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System หรือ EMS) ซึ่งจะช่วยองค์กรในการจัดการกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องการการดำเนินงานในองค์กรนั้น ๆ
 


 
ISO 14001:2015 มีการกำหนดเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน, การดำเนินการ, การตรวจสอบ, และการปรับปรุงในเชิงระบบ ทั้งนี้เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินการในทิศทางที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่น้อยลง และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรทั้งทางเศรษฐกิจและทรัพยากรธรรมชาติ
 
มาตรฐานนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในธุรกิจและองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมในการดำเนินงานของตน


ความเสี่ยง (risk)
 
ความเสี่ยง (risk) ถูกนิยามว่าเป็น "ผลกระทบที่ไม่แน่นอนของเหตุการณ์และสภาวะที่อาจทำให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือขั้นตอนการดำเนินงานของระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม" ซึ่งอาจมีการกระทำที่เป็นไปในอนาคตหรือไม่ รวมถึงผลกระทบที่เป็นไปได้ที่สามารถเป็นผลในการดำเนินงานหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ในระบบ EMS หรือกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร
 


 
ความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการประเมินความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อมขององค์กร และมีการกำหนดให้องค์กรจัดทำการประเมินความเสี่ยงเพื่อจัดการกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในระบบของตน การจัดการความเสี่ยงนี้ประกอบด้วยการพิจารณาและประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและกระบวนการต่างๆ และการดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงนั้น ๆ
 


 
การจัดการความเสี่ยงในระบบ EMS ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกและดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อมและให้การยอมรับต่อความเสี่ยงที่เป็นไปได้ในการดำเนินงานของตน การทำงานกับความเสี่ยงนี้เป็นส่วนสำคัญในการรักษาและปรับปรุงระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กรตามมาตรฐาน ISO 14001:2015
 


 
 
 
โอกาส (Opportunity)
 
โอกาส (opportunity) ถูกนิยามว่าเป็น "โอกาสในการปรับปรุงการดำเนินงานหรือประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม" โดยส่วนนี้เน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ EMS และกระบวนการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมและการประหยัดทรัพยากรทั้งทางเศรษฐกิจและทรัพยากรธรรมชาติ
 


 
การตรวจสอบและการรับรู้โอกาสเป็นส่วนสำคัญของการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001:2015 องค์กรควรสำรวจและพิจารณาโอกาสที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมและกระบวนการต่าง ๆ ที่มีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การลดการใช้พลังงาน, การลดการสร้างขยะ, การประหยัดน้ำ เป็นต้น
 


 
การใช้โอกาสเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในระบบ EMS จะช่วยองค์กรในการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและเกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่น้อยลง นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจจากลูกค้าและส่วนสังคมที่กำลังเริ่มให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน
 


 
วัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยง
 
วัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยงเป็นเป้าหมายหรือเป้าหมายที่ต้องการให้ผลการดำเนินงานและการจัดการมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลที่สูงที่สุด ด้วยการระบุและปรับปรุงความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายหรือการดำเนินงานทั้งในมุมมองของโอกาสและปัญหาทางความเสี่ยง


วัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยงสามารถ สรุปได้ดังนี้
 
การประเมินความเสี่ยง: การตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อระบุปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบและหาวิธีในการจัดการกับความเสี่ยงนั้น.
การป้องกันและการลดความเสี่ยง: การพยายามลดความเสี่ยงในระดับที่ต่ำที่สุดโดยการเป็นรูปแบบการดำเนินงานที่ปลอดภัยและความเสี่ยงต่ำ.
การจัดการโอกาส: การใช้โอกาสที่เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน โดยปรับปรุงกระบวนการและแนวทางการทำงาน.
การเพิ่มความมั่นใจ: การบริหารความเสี่ยงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริหารและส่วนแรงงานว่าองค์กรมีการตรวจสอบและการปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อจัดการกับความเสี่ยงและโอกาสทางสิ่งแวดล้อม.
การปรับปรุงระบบการดำเนินงาน: การระบุและปรับปรุงกระบวนการและนโยบายในระบบการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและลดความเสี่ยง.
การประหยัดทรัพยากร: การจัดการความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดทรัพยากรทั้งทางเศรษฐกิจและทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิผล
 
ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลและเป้าหมายการดำเนินงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด องค์กรสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นและความยั่งยืนในการดำเนินงานของตนได้
 
การกำหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน
 
ระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง

  1. ระดับที่เสี่ยงมาก (High Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสูงมาก และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงมาก
  2. ระดับที่เสี่ยงปานกลาง (Moderate Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในระดับปานกลาง และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงปานกลาง
  3. ระดับที่เสี่ยงน้อย (Low Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อย และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงน้อย
  4. ระดับที่เสี่ยงน้อยมาก (Very Low Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยมาก และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงน้อยมาก
  5. ระดับที่เสี่ยงน้อยที่สุด (Negligible Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงน้อยที่สุด

หล่านี้อาจถูกกำหนดโดยองค์กรเองหรือตามมาตรฐานหรือแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยงที่องค์กรตาม. สิ่งที่สำคัญคือการกำหนดเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนและเหมาะสมตามบริบทขององค์กรและกิจกรรม
 
ระดับผลกระทบความเสี่ยง

  1. ระดับที่เสี่ยงมาก (High Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสูงมาก และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงมาก
  2. ระดับที่เสี่ยงปานกลาง (Moderate Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในระดับปานกลาง และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงปานกลาง
  3. ระดับที่เสี่ยงน้อย (Low Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อย และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงน้อย
  4. ระดับที่เสี่ยงน้อยมาก (Very Low Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยมาก และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงน้อยมาก
  5. ระดับที่เสี่ยงน้อยที่สุด (Negligible Risk): ระดับนี้หมายถึงความเสี่ยงที่มีความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงน้อยที่สุด

ค่าเหล่านี้อาจถูกกำหนดโดยองค์กรเองหรือตามมาตรฐานหรือแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยงที่องค์กรตาม. สิ่งที่สำคัญคือการกำหนดเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนและเหมาะสมตามบริบทขององค์กรและกิจกรรม
 
ระดับผลกระทบความเสี่ยง

  1. ระดับผลกระทบความเสี่ยงระดับสูง (High Impact): ระดับนี้หมายถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงและมีผลกระทบมากต่อกิจกรรมหรือเป้าหมายขององค์กร อาจส่งผลให้เกิดการเสียหายสูญเสียทางเศรษฐกิจหรือชื่อเสียง
  2. ระดับผลกระทบความเสี่ยงระดับกลาง (Moderate Impact): ระดับนี้หมายถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงปานกลางและอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจหรือชื่อเสียงในระดับกลาง
  3. ระดับผลกระทบความเสี่ยงระดับต่ำ (Low Impact): ระดับนี้หมายถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงน้อยและมีผลกระทบน้อยต่อกิจกรรมหรือเป้าหมายขององค์กร
  4. ระดับผลกระทบความเสี่ยงระดับน้อยมาก (Very Low Impact): ระดับนี้หมายถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงน้อยมากและมีผลกระทบน้อยมากต่อกิจกรรมหรือเป้าหมายขององค์กร
  5. ระดับผลกระทบความเสี่ยงระดับต่ำที่สุด (Negligible Impact): ระดับนี้หมายถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงน้อยที่สุดและไม่มีผลกระทบให้กับกิจกรรมหรือเป้าหมายขององค์กรเกือบไม่เคยเกิดขึ้น

สัญลักษณ์หรือคำอธิบายที่ใช้เพื่อแสดงระดับผลกระทบความเสี่ยงเหล่านี้ควรเป็นเชิงลบถึงเชิงบวกเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนในการประเมินความรุนแรงของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม. องค์กรสามารถกำหนดรูปแบบนี้ตามความเหมาะสมและบริบทของกิจกรรมและการดำเนินงานของตน
 
การวิเคราะห์ความเสี่ยง
 
การวิเคราะห์ความเสี่ยง เป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกิจกรรมหรือกระบวนการต่าง ๆ ขององค์กร การวิเคราะห์ความเสี่ยงช่วยให้องค์กรรู้จักและเข้าใจความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ และช่วยในการกำหนดกิจกรรมหรือมาตรการที่เหมาะสมในการจัดการความเสี่ยง

การจัดลำดับความเสี่ยง
 
การจัดลำดับความเสี่ยง เป็นขั้นตอนที่ใช้ในการกำหนดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง การจัดลำดับความเสี่ยงช่วยให้องค์กรกำหนดว่าความเสี่ยงใดมีความสำคัญมากกว่าความเสี่ยงอื่นในแง่ของการเกิดผลกระทบและความน่าจะเป็นที่จะเกิด

การจัดลำดับความเสี่ยงสามารถใช้หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น

  • ความรุนแรงของผลกระทบ: ความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดจากความเสี่ยง
  • ความน่าจะเป็นในการเกิด: ความน่าจะเป็นที่เหตุการณ์หรือสภาวะเสี่ยงจะเกิดขึ้น
  • การควบคุมความเสี่ยง: มาตรการที่ใช้ในการลดหรือควบคุมความเสี่ยง
  • ความพร้อมในการจัดการ: ความสามารถขององค์กรในการจัดการความเสี่ยง

โดยการบูรณาการข้อมูลเหล่านี้ องค์กรสามารถจัดลำดับความเสี่ยงตามระดับความสำคัญ และทำให้ง่ายต่อการเลือกและวางแผนในการจัดการความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม
 


 
จัดทำแผนภูมิความเสี่ยง
 
การจัดทำแผนภูมิความเสี่ยงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแสดงและสื่อสารความเสี่ยงในรูปแบบกราฟิก เพื่อให้การเข้าใจและการแสดงข้อมูลเป็นไปได้อย่างชัดเจน การสร้างแผนภูมิความเสี่ยงมักจะใช้เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในกระบวนการนี้ ขั้นตอนหลักในการจัดทำแผนภูมิความเสี่ยงได้แก่:

  1. รวบรวมข้อมูล: รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ต้องการวิเคราะห์ ข้อมูลเหล่านี้อาจมาจากการประเมินความเสี่ยง, ข้อมูลปริมาณ ความถี่ของเหตุการณ์ เป็นต้น.
  2. เลือกประเภทของแผนภูมิ: เลือกประเภทของแผนภูมิที่เหมาะสมในการแสดงข้อมูลความเสี่ยง เช่น แผนภูมิแท่ง, แผนภูมิเส้น, แผนภูมิวงกลม เป็นต้น.
  3. ประมวลผลข้อมูล: นำข้อมูลที่รวบรวมมาวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อสร้างข้อมูลที่จะนำมาใช้ในแผนภูมิความเสี่ยง.
  4. สร้างแผนภูมิความเสี่ยง: ใช้ข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนก่อนหน้าเพื่อสร้างแผนภูมิความเสี่ยงตามประเภทที่เลือก แผนภูมิความเสี่ยงมักจะแสดงผลกระทบและความน่าจะเป็นของเหตุการณ์เสี่ยงต่าง ๆ ในรูปแบบกราฟ.
  5. เพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติม: แผนภูมิความเสี่ยงอาจจะมีการเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การเพิ่มชื่อเหตุการณ์, วันที่, รายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้ข้อมูลมีความเข้าใจมากขึ้น.
  6. สื่อสารแผนภูมิ: นำแผนภูมิความเสี่ยงที่สร้างขึ้นมาใช้ในการสื่อสารความเสี่ยงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทีมงาน, ผู้บริหาร หรือส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ.

การจัดทำแผนภูมิความเสี่ยงช่วยให้องค์กรรับรู้และเข้าใจความเสี่ยงในรูปแบบที่ชัดเจน ทำให้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงและการวางแผนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง
 
การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการบริหารความเสี่ยง การประเมินเหล่านี้ช่วยให้องค์กรรับรู้ถึงความเป็นไปได้ของเหตุการณ์เสี่ยงที่จะเกิด และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยงช่วยให้องค์กรทราบถึงความเสี่ยงที่มีความสำคัญและความเร่งด่วนในการจัดการ จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและทำความสำเร็จในการบริหารความเสี่ยง

กระบวนการประเมินความเสี่ยงตาม ISO 14001:2015 ประกอบด้วย ขั้นตอนต่อไปนี้

  1. การระบุภัยคุกคามและการประเมินความเสี่ยง - การระบุภัยคุกคามที่สามารถเกิดขึ้นจากกิจกรรมหรือกระบวนการและการประเมินความเสี่ยงเพื่อระบุสิ่งที่อาจเกิดขึ้น โดยการประเมินความเสี่ยงจะคำนวณค่าความน่าจะเป็นของการเกิดภัยคุกคาม และความรุนแรงของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  2. การประเมินความเสี่ยง - การประเมินความเสี่ยงจะคำนวณความน่าจะเป็นของภัยคุกคามและความรุนแรงของผลกระทบ และเปรียบเทียบกับการจัดการความเสี่ยงปัจจุบัน และทำการตัดสินใจว่าจะรับความเสี่ยงหรือไม่ หรือต้องปรับแผนการจัดการความเสี่ยง
  3. การกำหนดแผนการจัดการความเสี่ยง - การกำหนดแผนการจัดการความเสี่ยงในการดำเนินการในกรณีที่ต้องรับความเสี่ยง
  4. การดำเนินการและการตรวจสอบ - การดำเนินการและการตรวจสอบโดยการปรับปรุงและประเมินผลการดำเนินการจากแผนการจัดการความเสี่ยงที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดการความเสี่ยงเป็นไปตามที่กำหนดไว้
  5. การทบทวนและการประเมิน - การทบทวนและการประเมินเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดการความเสี่ยงยังคงเป็นไปได้ตามที่กำหนดไว้ และมีการปรับปรุงแผนการจัดการความเสี่ยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการความเสี่ยง
     
     

การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงและควบคุมความเสี่ยง ในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กรสามารถดำเนินการในแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคุณค่าสูงสุดต่อธุรกิจของตนเองได้ในระยะยาว

การประเมินความเสี่ยงตาม ISO 14001:2015 มีวัตถุประสงค์หลักที่แตกต่างจากการประเมินความเสี่ยงในระบบการจัดการอื่น ๆ ดังนี้

  1. เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ - การประเมินความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการกับความเสี่ยงในด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้ตามแผนและมีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  2. เพื่อการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน - การประเมินความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรปรับปรุงกระบวนการการผลิตและการบริการให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และช่วยให้องค์กรสร้างความไว้วางใจในตลาด
  3. เพื่อการป้องกันความเสี่ยง - การประเมินความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรป้องกันความเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความมั่นใจในการจัดการความเสี่ยงในสิ่งแวดล้อมและลดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังช่วยให้องค์กรตรวจสอบและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจตามความเหมาะสมในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การลดการใช้พลังงาน การลดการใช้น้ำ การลดการสร้างขยะ เป็นต้น
  4. เพื่อการปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงาน - การประเมินความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงานในด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผู้บริหารมีข้อมูลเพียงพอเพื่อประเมินปัจจัยความเสี่ยงในการดำเนินกิจการ และปรับปรุงกระบวนการการผลิตเพื่อให้เหมาะสมกับการป้องกันและลดอันตรายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
  5. เพื่อการประสานงานภายในองค์กร - การประเมินความเสี่ยงใน ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ช่วยให้องค์กรทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันและลดอันตรายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต
     
     

ดังนั้น การประเมินความเสี่ยงตามข้อกำหนดระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2015 เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับองค์กรในการจัดการความเสี่ยงในด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต


บทความที่เกี่ยวข้อง
ISO 20000-1 : มาตรฐานงานบริการด้าน IT สำหรับองค์กรในโลกยุคดิจิตอล [ Part I ]
ที่ผ่านมา การบริหารบริการ IT (IT Service Management) ของแต่ละองค์กรมักจะขึ้นอยู่กับ IT Manager หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากต่างก็บริหารงานไปตามวิธีการที่ตนเองคิดว่าดีที่สุด โดยนำเอาประสบการณ์ที่เคยได้รับในอดีตมาผนวกกับการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อปรับใช้เป็นแนวทางในการทำงาน ลักษณะดังกล่าวนี้จึงไม่ต่างไปจากการลองผิดลองถูก และบ่อยครั้งที่ฝ่ายบริหารไม่สามารถตรวจสอบความโปร่งใส และประสิทธิภาพการทำงานของฝ่าย IT ได้ ส่งผลให้ฝ่ายบริหารไม่ทราบถึงปัญหา รวมถึงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากร และบริการ IT ขององค์กรเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เมื่อมีการปรับเปลี่ยนบุคลากรภายในฝ่าย IT ก็มักจะส่งผลกระทบถึงการให้บริการ IT ขององค์กรเสมอ เนื่องจากบุคลากรที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่นั้นไม่ทราบ หรือไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานที่เป็นอยู่เดิม จึงต้องใช้เวลาในการศึกษางานเป็นระยะเวลาหนึ่งกว่าจะสามารถบริหารบริการ IT ให้เข้าที่เข้าทางได้
31 May 2024
ISO 27001:2022  ช่วยธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างไร
ในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญ และความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องให้ความสำคัญ ISO 27001:2022 เป็นมาตรฐานที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างระบบบริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (ISMS) ที่แข็งแกร่ง และเชื่อถือได้ ซึ่งนำมาสู่ประโยชน์หลายประการ ดังนี้
17 May 2024
การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้วย (Why Why Analysis/5 Why)
การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้วย (Why Why Analysis/5 Why) Why Why Analysis หรือ 5 Why เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาในการดำเนินงาน โดยการใช้กระบวนการถามตัวเองว่า "ทำไม" (Why) เพื่อหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยที่แต่ละคำถามจะช่วยค้นหาปัญหาที่เป็นหลักหรือสาเหตุของปัญหาดังกล่าวได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเราพบปัญหาที่แท้จริง
5 Apr 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy